แนวทางในการคบเพื่อน
แนวทางในการคบเพื่อน
“ในความเป็นเพื่อน ฉันไม่ต้องการอะไรจากคุณ
คุณไม่ต้องการอะไรจากฉัน เราแบ่งปันเรื่องราวในชีวิต”
การเข้ากับผู้คนทั่วไปได้เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำ เราเล่นกับเพื่อนคนอื่น พูดคุยกับเขา ทำงานด้วยกัน การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า หรือดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในสังคมที่มีการกระทำและการโต้ตอบอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนบุคคลหรือกลุ่ม ในการให้ความเป็นเพื่อนนั้น ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แต่ก็มีแนวทางง่าย ๆ ที่จะเสนอแนะให้ทุกคนนำไปใช้ในการคบหาเพื่อนได้ เพราะการเข้ากับคนอื่น ๆ ได้จะช่วยให้เกิดบรรยากาศของความเป็นมิตรและทำให้สภาพจิตใจของทุกคนดีขึ้นกว่าเดิม ทำไมบางคนถึงเป็นที่ชื่นชอบรักใคร่ของคนทั่วไปที่ได้พบปะ เราจะพบว่าคนที่น่าสนใจ มักมีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตนเอง ดังต่อไปนี้
ให้ความสนใจกับผู้อื่น ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการเป็นที่รู้จักและยอมรับ คนมากมายจึงสนใจที่ให้เวลาในการพูดถึงตัวเองหรือเรื่องราวของตนเอง จนกลายเป็นมองข้ามความสำคัญของคนอื่น หรือลืมที่จะถามไถ่ให้ความสนใจกับผู้อื่น สุดท้ายอาจกลายเป็นการสร้างความรำคาญและเบื่อหน่ายให้กับผู้ที่พบเห็น ด้วยเหตุนี้ การจะสร้างความเป็นมิตรหรือการจะคบหาเพื่อน จึงควรแบ่งปันประสบการณ์ของตนเองในส่วนที่พอสมควร และให้ความสนใจถามไถ่และให้โอกาสผู้อื่นได้พูดถึงตัวเขาเองด้วย การให้ความสนใจรับรู้เรื่องราวของผู้อื่นควรดำเนินไปด้วยความตั้งใจ จริงใจ และไม่แสดงความอยากรู้อยากเห็นเกินความจำเป็น จนกลายเป็นการเสียมารยาท
แสดงความชื่นชมด้วยความจริงใจ มนุษย์ทุกคนชอบที่จะถูกชมด้วยกันทั้งนั้น ความพึงพอใจและการให้กำลังใจจะทำให้คนมีความกระตือรือร้นและพัฒนาตนเองให้ดีที่สุด การแสดงความชื่นชมด้วยความจริงใจเป็นเครื่องมือในการโน้มน้าวบุคคลให้ปรับปรุงการแสดงออกของตนและทำให้เขารู้สึกว่ามีความสำคัญ การจะเป็นเพื่อนกับใคร ๆ ได้ควรเป็นคนใจกว้าง มีความจริงใจและมีเมตตาและรู้จักชมเชยอย่างถูกต้องเหมาะสม ไม่เสแสร้งแกล้งชมอย่างไร้เหตุผล
หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ “การวิจารณ์เป็นสิ่งที่ไร้เหตุผลสูญเปล่า ไม่มีประโยชน์ เพราะมันจะทำให้แต่ละคนปกป้องและพยายามที่เข้าข้างตนเอง การวิจารณ์เป็นอันตรายเนื่องจากเป็นการทำให้คนที่ถูกวิจารณ์รู้สึกด้อยความสำคัญลง ทำให้รู้สึกเจ็บปวดสร้างความเกลียดชังและเสียใจ” นอกเสียจากว่าคนคนนั้นเป็นผู้กล่าวขอคำวิจารณ์เพื่อการพัฒนาปรับปรุงตนเอง
…..และถ้าคุณจะวิจารณ์ใครสักคน อย่าทำต่อหน้าคนอื่น มันจะไม่ทำร้ายเพียงบุคคลที่คุณวิจารณ์แต่มันจะเพิ่มผลสะท้อนกลับมาแรงมากขึ้น การพูดถึงความบกพร่องของคุณก่อนที่จะวิจารณ์คนอื่น หรือการชมก่อนแล้ววิพากษ์วิจารณ์จะทำให้น้ำหนักเบาลงได้ โดยทั่วไปก็ควรหลีกเลี่ยงการถากถางด้วย ซึ่งมันจะแย่ยิ่งกว่าการวิพากษ์วิจารณ์เสียอีก มันเป็นการตัดเยื่อใยและเหมือนกับว่าทำให้เป็นบาดแผล การเยาะเย้ยถากถางนั้นไม่สร้างความเป็นเพื่อนและเป็นรูปแบบการแสดงออกที่ควรหลีกเลี่ยง
รู้จักกาลเทศะ คำนี้หมายความว่า "สามารถที่จะดำเนินชีวิตไปโดยไม่มีการกระทบกระเทือนคนอื่นทั้งความคิดและตัวตน มันมีอำนาจที่จะไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างคุณและคนอื่นในการดำเนินชีวิตให้เหลือน้อยที่สุด" การรู้จักกาลเทศะยังเกี่ยวข้องกับสามัญสำนึกและความสุภาพในการชื่นชมและสร้างอิทธิพลเหนือคนอื่น คนที่รู้กาลเทศะดีมักสนใจในคำพูดเมื่อพูดกับหัวหน้า ลูกน้อง กับเพื่อน หรือลูกค้า เขาจะให้ความสนใจ เขาจะรู้จักใช้คำพูดกับใคร เมื่อไร อย่างไร เขารู้ว่าจุดมุ่งหมายของเขา คือ การได้รับความนิยมชมชอบเหนือคนที่เขาชื่นชอบ ทัศนคติของเขาสามารถโอนอ่อนแก้ไขได้ การมีกาลเทศะฝึกฝนขัดเกลาให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้โดยการเรียนรู้ และสะสมเพิ่มพูนขึ้นจากประสบการณ์ในการดำเนินชีวิต
มีมารยาทดี มารยาทที่ดีงามนั้นจะทำให้เราติดต่อกับใคร ๆได้ง่ายขึ้น โดยพื้นฐานของมารยาทที่ดีนั้นจะต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสังคมยอมรับ เพราะว่ามันเป็นการแสดงความรู้สึกนึกคิด การเอาอกเอาใจและพฤติกรรมที่เหมาะสม มารยาทจะประกอบไปด้วยการแต่งกายสุภาพ ผมหวีเรียบร้อย เล็บสะอาด รองเท้าขัดมัน หน้าตาสะอาดสะอ้าน ผู้ชายก็ไม่ไว้หนวดเคราให้รุงรัง ผู้หญิงก็ไม่ค่อยแต่งหน้ามากเกินไป สิ่งเหล่านี้จะสร้างความยอมรับนับถือจากเพื่อนและตัวเราเอง ความสุภาพเรียบร้อยนั้นทำให้คนสองคนเข้าใจกันได้ดี
มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มีไมตรี เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากพบ คนส่วนใหญ่มักจะตอบแทนความมีอารมณ์ขันและความเป็นมิตรด้วยสิ่งเดียวกัน อารมณ์ขันจะช่วยลดความตึงเครียดและเอาชนะความเฉยเมย เป็นการช่วยให้มีการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน เขาจะลืมความหวาดระแวงที่มีอยู่ ยุติการป้องกันตนเอง เขารู้สึกชอบคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกับเขาทุกคน รอยยิ้มจะสร้างความสุขในครอบครัว หล่อหลอมค่านิยมที่ดีในการดำเนินธุรกิจและเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเพื่อน
ปรารถนาดีกับผู้อื่น ถ้าต้องการให้ทุกคนเป็นอย่างคุณ มีความจริงใจ นิสัยซื่อสัตย์ มองโลกในแง่ดีและดีกับทุกคน คนเรามักจะสนใจคนที่เหมือน ๆ กัน คุณควรยอมรับและมองข้ามความผิดของคนอื่นบ้างและหันมาชื่นชมคุณสมบัติที่ดีของเขา
พูดจาดีกับทุกคน ถ้าคุณพูดไม่น่าฟังกับเขา พยายามค้นหาความผิดและนินทาว่าร้ายคุณก้าวเข้าไปสู่ปัญหาที่ยุ่งยากแล้วตอนนี้ อะไรที่คุณพูดจะย้อนกลับมาและคุณจะสูญเสียเพื่อนไปเรื่อย ๆ ถ้าคุณพูดจาดีกับใครคนหนึ่ง เขาทำให้คุณอยู่ในระดับที่ดีหรือ คุณสะท้อนให้เห็นคุณสมบัติที่ดีของคุณ
เป็นบุคคลที่น่าสนใจ การทำตัวให้น่าสนใจควรพิจารณา 2 ข้อ คือ
1. เป็นสุขกับชีวิตให้มากสุดเท่าที่จะเป็นได้ เราสามารถจะมีชีวิตที่เราเลือก ได้จากความเป็นอยู่แบบง่าย ๆ คุณต้องลองค้นหามันดูด้วยตนเอง
2. เสริมสร้างบุคลิกภาพของตัวคุณเอง การสร้างความคิดในเรื่องต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว อย่างการอ่านหนังสือและจดจำไว้เพื่อพูดคุยกับผู้คน ค้นหาไปรอบ ๆ ตัว มีความสนใจหลายอย่าง เช่น งานอดิเรกและความพยายาม ควรมีกิจกรรมที่คุณจะสนุกกับมันได้แทนที่จะจำกัดเพียงอย่างเดียว ความสนใจหลายอย่างเป็นหนทางสู่มิตรภาพ การศึกษาเพื่อนบางคน ดูซิว่าอะไรทำให้เขาน่าสนใจและเริ่มทำกับตัวเอง
แสดงความเห็นอกเห็นใจ ความเห็นอกเห็นใจนั้นอยู่สูงกว่าและมีค่ามากกว่าการ รู้จักกาลเทศะ มีผู้เชี่ยวชาญด้านประสิทธิภาพท่านหนึ่งกล่าวว่า "ผมพูดได้เลยว่าการแสดงความเห็นใจเป็นพื้นฐานหนึ่งของความมีประสิทธิภาพ มันทำให้คนเติบโต การทำตนให้ดีที่สุด ก็เพียงแต่แสดงความเห็นใจเท่านั้น สามารถแก้ปัญหายาก ๆ ของพวกเราได้ คนส่วนใหญ่มักอ่อนไหวและเปราะบาง พวกเขามักจะยึดอยู่กับความผิดเพียงเล็กน้อยว่าเขาจะต้องยึดถือ ไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ คนส่วนใหญ่เราพบเห็นทุกวันนี้ทั้งหิวกระหายความเห็นอกเห็นใจ ให้เขาสิ! แล้วเขาจะรักคุณ”
อย่าโอ้อวด คนบางคนที่ขี้โม้โอ้อวดเพื่อที่จะได้รับการยอมรับจากผู้อื่น ผลที่สุดแล้วเมื่อทุกคนรู้และเข้าใจแล้วเขาจะไม่สนใจการกระทำหรือคำพูดของคุณ โลกของเรารักความอ่อนน้อมถ่อมตน คนจะนับถือคนที่ไม่อวดอ้างสรรพคุณความดีของตัว ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความสุภาพและความมีเกียรติมักชนะใจเพื่อน ในขณะที่เพื่อนจะรังเกียจคนที่ทำตัวเป็นเป้าสายตาของผู้อื่น
เพียงหลักง่าย ๆ เหล่านี้ก็สามารถนำมาใช้เป็นเป็นแนวทางในการคบเพื่อนได้ไม่น้อยแล้ว
|