Thaiteenline-logo
home about law teens article hotline contact
 
     
     
 

น้องเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย

น้องเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย

 

"โมน่า"  สาวน้อยวัยใกล้จบปริญญาตรี โอดครวญด้วยความน้อยอกน้อยใจ

โมน่า             “น้องเป็นคนไม่สวย  แต่ก็ไม่ใช่ขี้เหร่  ต้องเรียกว่าธรรมดา พอไปวัดตอนสาย ได้ ก็ไม่ทราบว่าโชคดีหรือโชคร้ายได้คู่รักเป็นหนุ่มรูปงาม  เรารักใคร่ชอบพอกันมาตั้งแต่สมัยอยู่เข้ามหาวิทยาลัยใหม่ เขาเรียนวิศวะ  น้องเรียนบัญชี  ตอนนี้เราเรียนใกล้จบแล้ว ก็คิดว่าจบแล้วจะแต่งงานกันค่ะ…ปัญหาของน้องก็คือ เนื่องจากเขาเป็นผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีมากและเป็นคนมีอัธยาศัยยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคนเสมอ เขาจึงเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ  ผู้ชายนั้นน้องไม่ว่า  แต่ผู้หญิงนี่สิค่ะ!…”

ฮอทไลน์         "น้องกำลังเล่าว่า แฟนของเป็นคนหน้าตาท่าทางดีมาก น้องโชคดี แล้วยังไงอีกค่ะ"

โมน่า             “คือ…เวลาที่เห็นเขาพูดกับใครแล้ว   น้องรู้สึกทุกข์ใจมาก  โดยเฉพาะที่สังเกตดูเขาชอบมองผู้หญิงสวย บางทีเดินไปซื้อของด้วยกัน  เขามองเสียจนเหลียวหลัง  น้องก็อดโกรธตะบึงตะบอนเอากับเขา  เขาก็ปลอบว่านั่นเป็นเพียงวิสัยของผู้ชาย สำหรับเขาแล้ว ความฉลาดของผู้หญิงและคุณสมบัติอื่น มาก่อนความสวย  เขาชมและยกย่องน้องมากที่สามารถพูดจากับเขาและเพื่อน ได้โดยไม่มีใครรำคาญ…”

ฮอทไลน์         "แฟนของน้องเขาก็ชื่นชมน้อง แล้วน้องมองเขายังไงค่ะ"

โมน่า             "…เขาเป็นคนที่เก่งในด้านการเรียนและออกสังคม น้องเองก็เชื่อใจและไว้วางใจเขามาก   แต่ก็ไม่ทราบเป็นอย่างไรพอเห็นเขามองผู้หญิงสาว แล้วน้องก็โกรธเขามาก  ทั้ง   ที่เป็นเช่นนั้นเลย   ไม่อยากเชื่อจะได้ชื่อว่าเป็นคนขี้หึง  เพราะเคยตกลงพูดจากันอย่างเปิดทางให้  ไม่ต้องการเป็นมารความสุขของเขา แต่ทำไมพอเห็นเขามองใคร ก็กลัวและหวั่นไหวไปหมด  อย่างนี้เรียกว่า  เป็นคนขี้หึงและขี้อิจฉาค่ะ  แล้วทำอย่างไร  จึงจะหายหรือจะกำจัดความรู้สึกที่ไม่ดีนี้ไปได้  น้องไม่สบายใจเลยค่ะ  พี่ช่วยแนะนำน้องด้วย…”

ฮอทไลน์         "น้องอยากให้พี่แนะนำเรื่องแฟน เพราะเรารู้สึกว่าเขามีดีมาก และเราก็หึงหวงเขาเหลือเกิน"

 

          คำปรับทุกข์ของหนูโมน่าคนนี้  ความจริงเมื่อสมัยผู้เขียนยังเยาว์วัยก็มีความรู้อย่างนี้เช่นกัน  และเชื่อว่าเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับคนทุกรุ่นทุกวัย  หรือจนถึงผู้ที่มีครอบครัว  คือ “เขา”   เป็นของเราจริง ๆ แล้ว  แต่ความหวั่นไหวไม่เคยหายไปจากใจ    ไม่อยากเรียกตัวเองว่าคนขี้หึงแล้วก็ไม่อยากจะได้ชื่อว่า    “คนขี้อิจฉา”   แต่พิจารณาแล้วก็คงหนีคำสองคำนี้ไม่พัน   ฉะนั้นก็อย่าไปเลี่ยงหลบเลย   สองทำใจกล้ายอมรับตัวเองว่า  “ฉันเป็นคนขี้อิจฉาและขี้หึงด้วย” เพราะมันไม่ได้มีความผิดปกติอะไรในสองคำนี้  มันเป็นเพียงความรู้สึกและอารมณ์ของปุถุชนหนึ่งเท่านั้นเอง ในฐานะที่เป็นพี่และเป็นนักจิตวิทยา จึงได้สอบถามและพูดคุยว่า

 

ฮอทไลน์         "ทีนี้เราลองมาพิจารณาตัวอย่างสิว่า   ทำไมเราจึงรู้สึกหวั่นไหวหวาดผวาหรือเจ็บปวดทุกครั้งที่เนเขามองผู้หญิงสวย เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่เรารู้สึกมีปมด้อยที่เกิดมาไม่สวยและก็เป็นธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคนอยากเกิดมาสวย  คือตัวเราก็ชอบความสวย  อยากจะเห็นตนเองเป็นคนสวยสำหรับคนที่เรารัก อยากจะให้เขามองเราจนเหลียวหลังด้วยกันได้  แต่เป็นเพราะเรายอมรับกับตัวเราว่าเราไม่สวย  ถึงจะไม่ขี้เหร่  แต่อย่างน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคนสวย แล้ว  เราก็หมดสวยคือไม่มากเท่าเขา!

โมน่า             "มันเกิดขึ้นจากอะไรค่ะ ทำไมมาเกิดกะหนูล่ะ"

ฮอทไลน์         "หนูอยากรู้ว่าทำไม…จากจุดนี้พี่อยากจะชี้ให้เห็นว่า  เพราะน้องขาดความภาคภูมิใจในตนเอง  คือไม่ยอมรับความเป็นตัวของตัวเองว่า “เรา”  เกิดมาหน้าตาเป็นอย่างนี้  ธรรมชาติให้มาถึงจะไม่สวยเลิศเลอ ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่  หรือพิกลพิการ  ก็นับว่าเป็นบุญอยู่มาก แต่พระเจ้าก็ได้ให้สติปัญญาความเฉลียดฉลาดมันสมองและสามัญสำนึกมามากจนคนที่เรารักและใคร ก็แลเห็น เพราะฉะนั้นได้เท่านี้ก็นับว่าดีกว่าคนสวย ที่ขาดมันสมองและสติปัญญา เพราะว่าความสวยนั้นมันมีแต่วันที่จะโรยรา ส่วนสติปัญญามันมักจะงอกงามเจริญเติบโตขึ้นตามอายุขัย ฉะนั้นจะมิเป็นการดีกว่าหรือที่เราจะเรียนรู้ในการสร้างสมความดีงามทางจิตใจทางมันสมองให้ดีขึ้นเรื่อย และยอมรับว่าตัวเราเป็นคนไม่สวยแต่ก็มีคุณสมบัติอื่นที่เลิศเลอกว่า"

โมน่า             "แล้วหนู ควรทำยังไงดีละคะ"    

ฮอทไลน์         "พี่เห็นว่าน้องควรมีความภูมิใจในตนเองมากกว่าที่จะพยายามลดตัวเองไปเปรียบเทียบกับความสวยงามที่ไม่จีรังและยังเป็นการาทำร้ายตนเองให้เจ็บปวดด้วย อย่าลืมว่าการนำตัวเองเข้าไปเปรียบเทียบกับใคร นั้นก็มีแต่จะนำความไม่สบายใจมาสู่เรา และยิ่งถ้าเราพยายามจะเอาชนะด้วยการไปแต่งเติมเสริมสวยเข้าด้วยแล้ว  เราก็จะเป็นผู้พ่ายแพ้ตลอดกาลเพราะไม่ว่าจะหนทางหนึ่งทางใดเราย่อมจะพบกับค่นที่ดีเด่นกว่าเราเสมอ หยุดทำร้ายตนเองด้วยการนำตนเองไปเปรียบเทียบกับใคร เสียเถอะค่ะ   หันมาภูมิใจในความเป็นตัวของตนเองดีกว่า"

โมน่า             "แล้วทำไมเขาต้องไปมองผู้หญิงสวยๆ ด้วยค่ะ"

ฮอทไลน์         "อนึ่ง  เรื่องจะห้ามคู่รักเราไม่ให้มองผู้หญิงสวย นั้นคงเป็นเรื่องยากและยิ่งเราทำท่าตะบึงตะบอนให้เขาเห็น  เท่ากับให้เขาเห็นความไม่สวยของเรามากขึ้น  แน่ล่ะค่ะ  มันอดขมขื่นใจไม่ได้ใช่ไหมคะ  พี่เข้าใจค่ะแต่น้องไม่คิดบ้างหรือคะว่า  'ความสวยงามนั้นมีไว้ไห้คนได้ชื่นชม' ดูดอกกุหลาบดูผีเสื้อแสนสวยสิคะมีใครบ้างสามารถหักห้ามใจให้มองมันได้"

"…ถึงผู้ชายหล่อ ก็เถอะ  บางทีเห็นแล้วยังอดมองแล้วมองเล่าไม่ได้  ผู้หญิงสวย ก็เช่นกันค่ะ  มีไว้เพื่อให้ใคร มอง  ฉะนั้นถ้าน้องยอมรับความจริงข้อนี้เสีย  และแทนที่จะห้ามปรามพอเห็นใครสวย ก็ชี้บอกและให้เขามองเลย เท่ากับแบ่งปันความรู้สึกที่มีส่วนร่วมด้วยกัน"

โมน่า             "แล้วมันดีหรือค่ะ ที่มาบอกหนูว่าคนนั้นคนนี้สวย"

ฮอทไลน์         "การที่เราสามารถจะรู้และร่วมในการแสดงความรู้สึกนึกคิดกับคนที่เรารักได้นอกจากการเป็นเสน่ห์ผูกใจเขาไว้ให้เปิดเผยความในใจกับเราได้   ดีกว่าการที่จะกันให้คนนอก  หรือเราไปกันตัวเราจากการเป็นส่วนหนึ่งในตัวเขานะคะ  ก็เหมือนการไปดูภาพยนตร์แหละค่ะ  บางทีถ้าเขารู้ว่าเรื่องแบบนี้น้องไม่ชอบเขาไม่กล้าชวนก็อาจจะหลบไปดูคนเดียว  บางทีก็เหงาไม่มีคนคุยแสดงความคิดเห็นหรือหัวเราะด้วย   ต่อไปเขาอาจหาคนอื่นไปเป็นเพื่อนแทนน้องก็ได้นะคะ"

โมน่า              "ทำไมผู้หญิงต้องหึงล่ะคะ พี่"

ฮอทไลน์         "สำหรับเรื่องของความหึง  ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น  เพียงแต่อย่ามีให้มากจนกลายเป็นทำร้ายตัวเราเองและคนที่เรารัก   ความหึงเป็นอารมณ์  เป็นความรู้สึกหวงแหนในสิ่งที่เป็นที่รักของเรา  เป็นความกลัวว่า  ของรักนั้นจะถูกคนอื่นแย่งชิงไปและบางครั้งก็หวงแม้จะมีใครมองของรักชิ้นนี้"

"…พูดกันตามความจริงแล้ว  ความหึงหวงก็เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของคนเรานั้นเอง  ซึ่งพูดตามสิทธิทุกอย่างที่เป็นของเราเราย่อมต้องการรักษาปกป้องไม่ให้ใครมาก้ำเกินหรือก้าวร้าว    แต่ถ้าความหึงนั้นเกี่ยวข้องกับตัวบุคคล  คือเป็นตัวคนรักของเรา  และการที่เขาได้ชื่อว่าเป็นคนรักหรือแม้กระทั่งสามีหรือภรรยาเราแต่อย่าลืมว่าเขาก็ยังคงเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีเลือดเนื้อวิญญาณมีความคิด    มีความต้องการที่จะดำรงรักษาศักดิ์ศรีความเป็นตัวของเขาไว้นะคะ

โมน่า              "แล้วหนูควรทำไงต่อไปดีคะ"

ฮอทไลน์         "อย่าถือสิทธิที่จะเป็นเจ้าของเขาทั้งร่างกายและจิตใจ  ถ้าเขาไม่เต็มใจมอบให้เราทั้งหมดจริง พูดอีกทีก็คือ การจะหึงหวงเป็นการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของในบุคคลคนนั้น   แต่ต้องอยู่ภายในขอบข่ายที่เขาพอใจจะให้เราหึงด้วย"

"บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเพื่อนบางคนคนเราปรารภว่า  'แฟนหรือคนรักของฉันไม่เห็นหึงฉันเลยสงสัยจะหมดรักเราซะแล้ว!'     เป็นคำพูดทีเล่นทีจริงกึ่งน้อยใจที่ไม่ได้รับความเอาใจใส่   หรือการแสดงความสนใจ   ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนไร้ค่า  เราทุกคนต่างก็ปรารถนาจะได้รับความรู้สึกว่าเป็นคนมีค่าเป็นที่รักที่ต้องการของใคร โดยเฉพาะคนที่เรารักนะคะ"

"…แต่บ่อย เช่นกันที่เราได้ยินคำปรารภอย่างหงุดหงิดเบื่อหน่ายว่า   'แหม…มีแฟนหรือคนที่บ้านขี้หึงมาก ๆ นี่กลุ้มใจจริง!' นั่นคือการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าาของที่มากเกินไปทำให้ผู้รับรู้สึกเหมือนตัวเองขาดอิสรภาพ   ไม่สามารถจะเป็นตัวของตัวเองได้ทำให้เกิดความอึดอัด   ไม่พอใจและกลายเป็นความเบื่อหน่ายในที่สุด"

โมน่า              "พี่มีอะไรจะแนะนำหนูอีกไหมค่ะ"

ฮอทไลน์         "เราต้องยอมรับว่า  บุคคลทุกคนรักที่จะเป็นตัวของตัวเอง  พูดง่าย ถือจะมีคู่รักมีคู่ครองเขาก็หวังว่าจะมีส่วนหนึ่งซึ่งยังคงความอิสระ   เพื่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของตัวเขาเองอยู่    การที่เราจะหวังเข้าครอบครองเขาทั้งหมดก็เท่ากับไปจำกัดเขตความรู้สึกเป้นตัวของเขาเองไว้ทำให้เขาเกิดความรู้สึ่กเป็นตัวของเขาเองเสมอ   ฉะนั้นการจะรักใครจะหึงใครก็ต้องระแวดระไวไม่ให้เป็นการทำลายศักดิ์ศรีของความเป็นบุคคลของเขาไป  เพราะเท่ากับเป็นการทำลายตัวเราเองด้วย"

"สิ่งหนึ่งซึ่งจะมองข้ามไปเสียมิได้ก็คือ  การแสดงออกซึ่งอารมณ์หึงหวงนั้น  สืบเนื่องมาจากพื้นฐานความไม่มั่นใจในคุณสมบัติของตัวเราว่าสามารถจะผูกมัดจิตใจเขาไว้ได้ตลอดไป   หรืออีกประการหนึ่งก็คือ  เพราะเขามีนิสัยหรือพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ  เช่น  เป็นคนเจ้าชู้  เข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนก็รักดะไปหมด"

"…ถ้าเป็นประการแรกเราก็ต้องเสริมสร้างคุณสมบัติที่เรารู้ว่าจะนำความพอใจมาสู่เขา   แน่นอนเราก็ยังรักที่จะเป็นตัวของตัวเราอยู่  แต่ก็จงทำในส่วนที่ผูกพันเราด้วยกันไว้  เขารักเพราะอะไร  ถนอมส่วนนั้นไว้การที่คนเรารักกัน   ควรจะต้องประกอบไปด้วยบรรยากาศแห่งความดีงาม  ความเข้าอกเข้าใจกัน  ความเห็นใจซึ่งกันและกัน  สิ่งไหนเป็นข้อขัดแย้งก็ควรจะมีการพูดจาตกลงกันให้ชัดเจน การวิ่งไปหึงหวงแทนที่จะหาทางแก้ไขให้ตรงกับปัญหามีแต่จะดึงทึ้งหัวใจให้เจ็บปวดแหลกราญ และเมื่อนั้นความรักก็จะไม่เรียกว่าความรักต่อไปกลายเป็นการทรมาน ซึ่งกันและกัน! และถ้าเขาและเธอเป็นคนเจ้าชู้ทั้งคู่  มีผู้คนมากล้ำกลายพัวพันไม่ขาด  หรือประเภทชอบบริหารความหล่อ  ขอให้ได้แสดงความเจ้าชู้ไว้บ้าง  เจอะใคร ใกล้ใครก็ทำใจง่ายไปหมด  แบบนี้ตราบใดที่เขาไม่ทำให้ทั้งตัวหรือคนอื่นเดือนร้อน พอจะผ่อนได้ก็ผ่อนไปเถอะค่ะ ขืนต้องคอยวิ่งตามหึง  สงสัยไม่โรคหัวใจก็โรคประสาทจะกินเอา   แบบนี้ถ้าน้องหรือใครได้ประสบพบเจอก็ขอให้ถามใจตนเองให้ถ่องแท้นะคะว่า  “เขา”  มีค่าคุ้มหรือไม่กับการตามหึง!"

โมน่า              "หนูว่าไม่คุ้มนะ"

ฮอทไลน์         "คุยมาเท่านี้คงช่วยให้น้องได้มองเห็นพฤติกรรมของตนเองได้นะคะว่ามีสาเหตุมาจากอะไรและทำอย่างไรจึงจะแก้ไขหรือกำจัดความรู้สึกและอารมณ์ที่ไม่สมบูรณ์นั้นเสียได้   หลาย ท่านอาจแย้งว่าเรื่องแบบนี้พูดง่ายแต่ทำยาก  พี่ก็ยอมรับนะคะว่ายากจะทำ  แต่อ่านหลาย ครั้งแล้วค่อย คิดค่อย ฝึกหัดปฏิบัติตนไป  ก็จะช่วยให้น้องเข้าใจและสบายมากขึ้นค่ะ เลิกหึงได้แล้วนะคะ"

โมน่า              "ขอบคุณค่ะ พี่ หนูหวังว่าหนูคงจะหึงเขาน้อยลงนะคะ ขอบคุณมากค่ะ"

 

     
 
  Counter 203,793
 
 
© 2012 Thaiteenline. All Rights Reserved. หน้าหลัก | ความเป็นมา | กฎหมายเด็กและครอบครัว | วัยรุ่นอยากรู้ | บทความวัยรุ่น | ฮอทไลน์เคลื่อนที่ | ติดต่อเรา