ตอนที่ 11 ทำอย่า่งไรในวันวาเลนไทน์

ตอนที่  11

ทำอย่างไรในวันวาเลนไทน์

                เวลาผ่านไปรวดเร็วเหมือนติดปีก เร็วจนพี่กะพริบตาไม่ทันเลย เดือนมกราคมที่แล้ว มีวันเด็ก (ที่ 14 มกราคม) น้องๆ ไปเที่ยววันเด็กกันหรือเปล่าเอ่ย แต่บางคนโตแล้วจนไม่อยากจะเป็นเด็กอีก จึงเที่ยวแบบผู้ใหญ่บ้างก็มีใช่ไหมค่ะ? แต่พอเริ่มเดือนกุมภาพันธ์มานี้หลายคนคงจะเข้าใกล้วันสอบแล้ว ไม่ว่าจะสอบเข้าโรงเรียน สอบปลายเทอมที่โรงเรียนก็ตามแต่ก็น่าเบื่อทั้งนั้นเลย พี่เข้าใจดี อย่างไรก็ตามต้องพยายามเข้าไว้นะคะ แหม! พูดแต่เรื่องสอบจนลืมนึกถึงงานสำคัญของเดือนนี้ไปเลย วันที่ 14 เหมือนกันนะคะก็คือ “วันวาเลนไทน์” วันแห่งความรักไงคะ

                วันวาเลนไทน์ เป็นประเพณีทางตะวันตก ซึ่งส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นทั้งหลายจะส่งบัตรหรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งแสดงความรักหรือคำชมเชยต่างๆ ไปให้กับมิตรต่างเพศ ประเพณีนี้มาในเมืองไทยก็เกือบจะเป็นค่านิยมอีกอย่างของไทยเราเช่นกัน คนไทยว่านอนสอนง่ายอยู่แล้วค่ะ

ที่ขาดเสียไม่ได้ อาจเรียกว่า “นางเอก” ของวันวาเลนไทน์นั้นก็คือ “ดอกกุหลาบ”ดอกไม้แห่งความรักนั่นเอง สมัยก่อนเขาถือว่าดอกกุลหลาบแดงนี่แหละเป็นสิ่งที่สื่อความหมายได้ดีที่สุด แต่สมัยนี้มีการพัฒนา (ด้านใดก็ไม่รู้เหมือนกัน) มีดอกกุหลาบสีดำบ้าง ขาวบ้าง เหลืองบ้าง แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล และให้ความต่างๆ มากมาย อาจจะเป็นรักอมตะ รักบริสุทธิ์ รักริษยา…อื่นๆ อีกมากมาย (เรายกเฉลียงมาไว้ที่นี่) พี่เองเคยแนะนำให้น้องคนหนึ่งส่งดอกกุหลาบแดง เขาบอกว่า “เขิน” เพราะมันแสดงความรักอย่างชัดเจนเกินไปกลายเป็นเช่นนั้นเสียอีก พี่ยังงงๆ อยู่  คราวนี้ก็ไปนั่งคุยกับน้องๆ อีกนั่นแหละค่ะ เพราะพี่ชอบพูดคุยก็เลยถามความคิดเห็นของน้องๆ เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ ว่าแต่ละคนทำอะไรกันบ้าง พี่จะสรุปความสำคัญให้มาอ่านกันนะคะ คนแรกเป็นน้องกุ้ง…พูดความคิดให้ฟังอย่างเคร่งขรึม

กุ้ง                           “วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เราถือว่าเป็นวันแห่งความรัก หลายต่อหลายคนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ค่ะให้ความสำคัญกับวันนี้ ซี่งต้องปฏิบัติต่อคนอื่นๆ อย่างพิเศษ โดยเฉพาะคนที่เราชื่นชอบอยู่ น้องว่าความรักนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเราอยู่ได้ และโลกสามารถเคลื่อนไปได้ตามกาลเวลาได้นะคะ....สิ่งสำคัญคือ เราควรจะมอบความรักให้แก่ผู้อื่น โดยการช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าอย่าข่มเหงรังแกเขา ควรให้โอกาสเขา มีคนมากมายทีเดียวนะคะที่ไม่รู้จักเลือกทางเดินของตนเองยังไง พวกเขาต้องการความรักและคำแนะนำจากเรา โดยให้ความรู้หรือชี้แนวทางให้เขาเดิน พระเจ้าท่านเคยกล่าวว่า “รักผู้อื่นให้เท่ากับรักตัวเอง”(น้องกุ้งเป็นคนนับถือศาสนาคริสต์) อย่างเช่นว่า ถ้าเราต้องการจะรู้จักกับเพื่อนบ้านของเราก็แสดงความรักกับเขาก่อน เพื่อให้เรารู้จักกับเขาให้ดีขึ้น”

ฮอทไลน์               “แหม ! พี่ฟังแล้วรู้สึกทึ่งในความคิดของน้องกุ้งทีเดียว น้องๆ คนอื่นละคะคิดอย่างไรบ้าง

                เรามาดูพระเอกของเราอีกคน “น้องกรณ์” บอกกับพี่ว่า “พวกเราส่วนใหญ่ ใช้วาเลนไทน์ เป็นวันพิเศษสำหรับวัยรุ่นอย่างผม แต่จริงๆ แล้ว ผมคิดว่าเป็นวันสำคัญสำหรับทุกๆ คนมากกว่า เป็นวันที่สมาชิกในครอบครัวเพื่อนฝูงต่างๆ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อกันได้อย่างดีเลยครับ และที่สำคัญนะครับมันเป็นวันที่มีความหมายในด้านความรักในตัวของมันเอง”

กรณ์                       “ส่วนใหญ่แล้ว ผมก็ต้องการที่จะได้รับความรักจากผู้อื่นในวันนี้เหมือนกัน และต้องการมอบความรักของผมให้เขาด้วย จริงๆ แล้วการแสดงออกถึงความรัก ผมว่าไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้หรอกครับ ทุกวันนี้แสดงได้ พี่ว่าจริงไหมครับ ซึ่งถ้าเราเข้าใจผู้คนรอบข้างได้ละก็จะเป็นสิ่งที่มีความสุขมากเลยครับ

“วันวาเลนไทน์นี้  ผมตั้งใจจะซื้อขนมเค้กรูปหัวใจให้คุณแม่ของผม ผมทำเป็นประจำทุกปีเลยครับ แล้วก็ให้กุหลาบสีแดงแก่เพื่อนของผม (พูดอย่างอายๆ) แล้วการ์ดวาเลนไทน์ต่างๆ ดอกไม้เล็กๆ น้อยๆ แก่เพื่อนๆ ทุกคน ถ้าผมมีสตางค์พอนะครับ” (หัวเราะ)

ฮอทไลน์               “พี่ว่าน้องกรณ์มีความกตัญญูและก็เข้าถึงใจความรักได้ดีทีเดียว ซึ่งพี่ขอชมเชยนะคะ” กรณ์เขาก็เขินใหญ่เลย แต่ก็ทำให้ได้ความคิดอะไรมากมายทีเดียวคะ  คราวนี้พี่ไปเสาะหาน้องมาถามอีก นั่งคุยกันมานานพอสมควร “น้องเหมียว” ของเราก็แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา

เหมียว                    “ตอนเหมียวเล็กๆ นะคะ ไม่เคยคิดว่าวาเลนไทน์จะมีความสำคัญตรงไหน เห็นแค่ว่ามีอยู่วันหนึ่งมีการขายดอกไม้สวยเยอะแยะไปหมด เหมียวยังเคยไปซื้อกับเขาเลยค่ะ ต่อมาเหมียวก็ค่อยๆ รู้ว่า อ้อ ! ที่แท้ก็เป็นวันแห่งความรักนี้เอง เป็นวันที่แสดงออกถึงความรักให้กับคนที่ใกล้ชิดและผู้ที่เราแอบชื่นชมเงียบๆ ให้เขารู้ความในใจของเรา พี่ว่าพูดเกินไปหรือเปล่าคะ” (พี่ยิ้มใหญ่เลยค่ะ หาคนพูดตรงๆ อย่างนี้ยาก)

“คำว่า “ความรัก” เป็นคำสั้นๆ พยางค์เดียว แต่มีความหมายลึกซึ้งในตัวเอง เหมียวว่าการแสดงออกถึงความรักมีหลายแบบเช่นกับพ่อแม่เหมียวเองนะคะ หรือญาติผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก ก็ต้องพยายามทำตัวให้ดี ช่วยเหลืองานบ้านและอย่าทำให้ท่านโกรธ (แต่นี้ก็เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่แล้วค่ะ) สำหรับคุณครูเหมียวส่งดอกไม้บ้าง การ์ดบ้าง เพื่อนก็เหมือนกันนะคะ เหมียวว่ามีหลายคนทีเดียวที่ต้องปิดบังความรู้สึกของตนเองเอาไว้ หรือไม่กล้าพอที่จะเปิดเผยวันวาเลนไทน์นี่ไงล่ะคะ เริ่มตั้งแต่วันวาเลนไทน์นี้เลยค่ะ”

                อืม!?! วันนี้สำคัญสำหรับคนรักจริงๆ นะคะ ถ้าน้องคนไหนจะเปิดเผยความรู้สึกของตนกับพี่ละก็ เขียนจดหมายมาได้เลยนะคะ จะให้ตอบก็ได้ ยินดีเสมอค่ะ พี่เดินไปชอปปิ้ง  เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว พอหันไปด้านหลังพบพอดี เพื่อนของน้องพี่เองมาชอปปิ้งเหมือนกัน พี่จึงจำวันวาเลนไทน์ขึ้นมาได้ เลยได้ความคิดเห็นอีกคนมาเล่าสู่กันฟัง “น้องเอ๊ก” ค่ะ

เอ๊ก                         “ความรักคือการให้และการรับ…ความรักคือการเข้าใจกัน ความรักคือการแบ่งปันและอื่นๆอีกมา (พบนักปรัชญาอีกคน) เอ๊กว่าทุกคนที่เคยรู้จักกับความรักต้องรู้อำนาจของมันดีทีเดียวค่ะ...สำหรับวาเลนไทน์ ในความคิดของเอ๊กนะคะ มีความหมายมากค่ะ เป็นวันที่เอ๊กจะมอบความรักให้กับทุกคนเลย ไม่ว่าจะเป็นศัตรูคู่อาฆาตก็ตาม (พักรบกัน 1 วัน) แค่เรายิ้มและแสดงไมตรีจิตต่อกันเล็กน้อย ศัตรูที่ว่าก็อาจกลายเป็นมิตรก็ได้นะคะ เอ๊กมั่นใจมากค่ะว่า ถ้าเราเริ่มต้นมอบความรักของตัวเองให้กับอีกคนล่ะก็ จะทำให้เรามีความสุขมากเช่นกัน ซึ่งอันนี้เป็นของขวัญชั้นเยี่ยมของวันวาเลนไทน์ค่ะ

ฮอทไลน์               “ค่ะพี่ก็คิดเช่นนั้น เราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองมากมาย เพื่อซื้อของมาชนะใจคนที่เราชื่นชอบ เพียงรอยยิ้มพิมพ์ใจก็มีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดอีกค่ะ”

                มาฟังความเห็นของน้องอีกสองคน คู่นี้เป็นเพื่อนกัน ออกความคิดเห็นได้น่าฟังเช่นกัน คนหนึ่งชื่อ “นพ” อีกคนหนึ่งชื่อ “เกลี้ยง” คุณนพพูดอ่อนท่าทางช่ำชองด้านนี้มาก

นพ                         “วันวาเลนไทน์ก็เป็นวันที่จะส่งของขวัญหรืออื่นๆให้แก่คนอื่น โดยเฉพาะคนที่สำคัญๆ และก็ให้ของสำคัญๆ ด้วยครับ” (คุณนพสรุปสั้นๆ อย่างนี้เลย)

เกลี้ยง                     “ผมไม่อยากเชื่อเลยครับว่า ความรักของ St.Valentine จะกลายมาเป็นวันแห่งความรักไปได้ จนปัจจุบันหลายคนอาจลืมๆ ไปแล้วว่าจริงๆ เป็นชื่อของบุรุษในอดีตกาลคนหนึ่งนั้นเอง

ฮอทไลน์               “ส่วนพี่ก็ทราบมาเช่นกัน แต่ลองถามหลายๆคนก็ยังไม่ทราบว่าจริงๆ แล้วประวัติเป็นอย่างไร พี่เองเคยรู้มาแว่วๆ ในสมัยก่อน แต่ขณะนี้ลืมแล้ว (คนเราแก่ตัวลงแล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ อย่าถือสานะคะ) ใครรู้ประวัติอะไรก็เขียนๆ มาเล่าสู่กันฟังให้พี่ประดับความรู้บ้างนะคะ

พี่นั่งฟังสองคนนั้นพูดกันจนตามไม่ทันทั้งโต้แย้งกันบ้าง เห็นชอบกันบ้าง เพื่อนกันก็เป็นเช่นนี้แหละค่ะ จะมีสัมพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความเป็นเพื่อนแล้วก็หาได้ยากในที่นี้หมายถึงมิตรแท้นะคะ บางคนอาจเถียงว่า คุณพ่อคุณแม่ก็มีความสัมพันธ์ที่สำคัญมากกว่าเพื่อนอีก แต่พี่เคยฟังอยู่รายการหนึ่งเขาบอกว่า

"พ่อแม่นั้นเวลาเราเป็นเด็กเล็ก ท่านจะเป็นผู้ชี้แนะแนวทางให้กับเราจะทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง แต่พอเราย่างเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ (ต้องบรรลุนิติภาวะแล้วนะคะ) พ่อแม่ก็เปรียบเสมือนมิตรผู้หนึ่งซึ่งคอยให้คำปรึกษาเราและเตือนสติเรา เห็นไหมคะ ถ้าพ่อแม่เป็นเพียงผู้ปกครองไม่มีความเป็นมิตรอยู่ด้วยละก็ น้องๆ คงไม่สนิทกับท่านมากเท่าไรใช่ไหมคะ อย่างไรก็ตาม 'เพื่อน' ก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนแสดงหากันอยู่ วันแห่งความรักนี้อย่าลืมเพื่อนๆด้วยนะคะ"

                ถึงจุดนี้เราพูดถึงวันกันมามากแล้วจะพูดถึงเรื่องดอกไม้ดีกว่าไหมคะ ส่วนใหญ่แล้วเราจะมอบดอกไม้ให้แก่เพื่อนฝูงในวันแห่งความรักนี้ (ความรักลอยเต็มท้องฟ้าเลยเพราะเอ่ยถึงบ่อย) จริงๆ แล้วดอกไม้แต่ละดอกมีความหมายในตัวมันเอง หลายต่อหลายคนเชื่อในเรื่องนี้ จนกระทั่งมีดอกไม้สำหรับราศีต่างๆ ดอกไม้ที่แสดงถึงความรัก พี่พบหนังสือเล่มหนึ่งเขียนเกี่ยวกับชะตาราศีของวันเกิดโดยแยกเป็นเดือน ว่าเดือนนี้เหมาะสมกับเครื่องประดับอะไร และยังมีว่าเหมาะสมกับดอกไม้อะไรอีกด้วย พี่จึงเขียนมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าน้องๆ ที่สนใจอยากจะส่งดอกไม้ที่น่ารักๆ ไปให้เพื่อนผู้รู้ใจได้นะคะ

มกราคม                ดอกคาร์เนชั่น (Carnation) (ดอกสีแดง, ขาวหรือเป็นลาย) ดอกไม้แสดงความอ่อนหวาน

กุมภาพันธ์            ดอกไวโอเล็ต (Violet) (ดอกสีม่วงๆ หรือขาว มีกลีบดอกห้ากลีบ) ดอกไม้ที่แสดงความเงียบสงบ

มีนาคม                 ดอกจองวิล (Jongvil) (ดอกไม้สีเหลืองมี 6 กลีบ เกสรเป็นถ้วย มีกลิ่นหอม) ดอกไม้ที่แสดงถึงความหวังและคำมั่นสัญญา

เมษายน               ดอกสวีทพี (Sweet Pea) (พันธ์ไม้เลื้อยมีดอกหอม) ดอกไม้น่ารักแสดงถึงอารมณ์แห่งความรัก

พฤษภาคม            ดอกลิลลี่ (Lily of the Valley) (ช่อดอกสีขาวหรือสีชมพู ลักษณะคล้ายถ้วยเล็กๆ) สัญลักษณ์ของความสวยงามและความพึงพอใจ

มิถุนายน               ดอกกุหลาบ (Rose) ดอกที่หมายถึงเตือนใจให้ระลึกถึง

กรกฎาคม             ดอกลาร์คสเปอร์ (Lark Spur) (พันธ์ไม้ที่มีดอกสีฟ้า ขาวหรือชมพูด) สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสนุกสนานชั่วนิรันดร์

สิงหาคม               ดอกแกลดิโอลัส (Gladiolus) (มีสีต่างๆ มากมาย) ดอกไม้แห่งความทรงจำล้ำค่า

กันยายน              ดอกแอสเตอร์ (Aster) (ไม้ดอกมีกลีบดอกสีขาว ชมพูหรือม่วงแดงตรงกลางมีสีเหลือง) ดอกไม้ที่มีกลีบระยิบระยับสำหรับคนช่างฝัน

ตุลาคม              ดอกดาวเรือง (Calendula) ดอกไม้ที่แสดงถึงความคิดที่อบอุ่นและจริงใจ

พฤศจิกายน         ดอกเบญจมาศ (Chrysanthennum) ดอกไม้ที่แสดงถึงความเข้าใจและความกรุณาปราณี

ธันวาคม              ดอกนาร์ซิสซัส( Narcissus) (ดอกไม้มี 6 กลีบ หลากสี มีลักษณะเป็นถ้วยอยู่ตรงกลาง กลิ่นหอมฉุย) นักดนตรีน้อยๆ ที่แสดงถึงสิ่งใหม่ๆ ที่ดีๆ

ใครเกิดเดือนใด ชอบดอกไม้อะไรก็ดูเอานะคะ